วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปฏิบัติธรรม ทำไม 1

ผู้คนไปปฏิบัติธรรมกันมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานปฏิบัติธรรมใหม่ๆผุดขึ้นรองรับความไขว่คว้าของผู้คน เพียงแต่ว่าคนเหล่านี้ ไขว่คว้าหาอะไร จากการปฏิบัติธรรม

การไปปฏิบัติธรรมของหนึม เป็นผลจากที่ หนึมอ่านหนังสือธรรมมามาก อ่านประวัติและคำสอนของครูบาอาจารย์มามาก ทั้งหลวงพ่อโต หลวงปู่มั่น หลวงพ่อชา หลวงปู่ดูลย์ ท่านพุทธทาส ฯลฯ ยิ่งหลังจากเจ็บป่วยทั้งเรื่องกระดูกข้อต่อเชิงกราน ไหนจะเรื่องซิสต์แตก ไหนจะเรื่องภูมิแพ้(แพ้อะไรไม่รู้ แต่แพ้แล้วกลายร่างเป็นตัวประหลาดน่ากลัวสุดๆ) หนึมก็ยิ่งอ่าน แต่อ่านเท่าไหร่ก็ยังทุกข์เหมือนเดิม ยังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟล้างผลาญได้ตลอดเวลา แสดงว่าการอ่านไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์ได้ ต้องทำ ทำอะไรยังไม่รู้ คงทำในสิ่งที่อ่านเจอว่าครูบาอาจารย์ท่านทำกัน อีกส่วนหนึ่งก็เพราะสิ่งที่ครูบาอาจารย์ได้ประสบพบจากการปฏิบัติธรรม ดูเป็นเรื่องแปลกใหม่และนึกไม่ถึง หนึมเลยอยากลองดูกับตัวเองบ้าง

การไปปฏิบัติธรรมของหนึมจึงไม่ได้ไปด้วยความคาดหวังอะไรมาก ไปเพราะอยากรู้ว่าไปทำอะไร แล้วเป็นยังไง เพื่อนผู้มีประสบการณ์เตือนมาว่าอย่าตั้งความหวังใดๆ ไม่งั้นจะไม่ได้อะไรเลย ฉะนั้นเมื่อหนึมเข้าไปที่ยุวพุทธิกสมาคมซึ่งอยู่ใกล้บ้าน และเช้าวันแรกเขาให้ผู้ปฏิบัติอธิษฐานหนึม จึงอธิษฐานแค่ให้หนึมมีกำลังใจจะปฏิบัติ อย่าได้ท้อแท้ และเมื่อตั้งใจแล้วก็ขอให้มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติให้สมควรแก่ความพยายาม คนอื่นขอให้ระลึกชาติได้ ขอให้รู้ได้ว่าลูกเล็กที่เพิ่งเสียชีวิตไปไปเกิดที่ไหน ขอเห็นเลขหวย ฯลฯ หนึมเอาง่ายๆแค่นี้

ทำไมหนึมอธิษฐานให้ตัวเองมีกำลังใจไม่ท้อ เพราะการเป็นอยู่ช่วงปฏิบัติธรรมช่างต่างจากการดำรงชีวิตของหนึมเหลือเกิน ทั้งเวลาตื่นเวลานอน ห้องนอนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำที่ต้องไปใช้กับคนอื่น แถมไม่มีน้ำอุ่นให้อาบ นอนรวมกับคนอีกเป็นสิบๆคน เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ไม่ให้ใช้ บางที่ก็ต้องงดอาหารเย็นเพราะต้องถือศีลแปด ฯลฯ ตามหลักของ Maslow เด๊ะเลย หนึมกังวลเรื่องความต้องการพื้นฐาน แต่ตั้งใจแล้วว่าต้องสละเรื่องพื้นฐาน เพื่อเข้าถึงเรื่องใหญ่ๆ เอาไงเอากัน มีแม่ พี่นุ่ม พี่นั่มให้กำลังใจซะอย่าง