วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Red Flare บ้านพี่ตา



มาแล้วรูปแรกจากแฟนคลับบัวกลางคืน Red Flare ของหนึม วันนี้พี่ตา พี่สาวที่แสนน่ารักส่งภาพ Red Flare ที่พี่ตาบรรจงแช่ลงในกระถางรักจากคุณพ่อของพี่ตา น้ำใสกิ๊งเลยทีเดียว หน้าตาเจ้า Red Flare ดูสดใสดีมาก ได้แดดดีขนาดนี้ อีกไม่นานคงมีรูปดอกแสนสวยมาโชว์กันแน่ๆเลย


ระหว่างนี้เอารูปดอก Red Flare ที่กำลังเจริญงอกงามรอวันพ้นน้ำจากบ้านหนึมไปดูพลางๆก่อน สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคย ภาพนี้คือหนึมยกกระถางบัวให้ขึ้นมาพ้นน้ำ เพื่อทำการถ่ายดอกที่เพิ่งงอกออกมาจากเหง้าบัวนะคะ ก้านดอกจะค่อยๆยืดยาวตามระดับความลึกของน้ำในอ่างบัว จนพ้นน้ำมาบานให้เราเห็นค่ะ ในรูปนี้มี 4 ดอก (หาเจอกันไม๊เอ่ย) เมื่อบานแล้วจะถ่ายมาให้ชมกันนะคะ

เราเป็นอย่างไรก็ได้เพื่อนอย่างนั้น

เราเป็นอย่างไรก็ได้เพื่อนอย่างนั้น

สมัยที่หนึมยังเที่ยวกินดื่มทุกคืนอยู่นั้น หนึมมีเพื่อนฝูงมากมาย ทักทายเฮฮาหัวเราะ ดื่มไปคุยไปจนตี 2 ตี 3 ยังครึกครื้น กลับบ้านไปเสียงดังแสงสียังวูบวาบแม้ยามหลับตา ตอนที่หนึมพบว่าแพ้อาหารจนตัวบวมอยู่โรงพยาบาลไป 5 วันไม่รู้ว่าแพ้อะไรจนต้องหยุดทานเนื้อสัตว์ถึงหายบวมนั้น นั่นเป็นที่มาของการเลิกเที่ยวของหนึม เพราะอะไรๆก็ทานไม่ได้ รายการของต้องห้ามยาว 3 หน้า A4 หมอไม่ห้ามดื่มอัลกอออล์ แต่ไปไหนก็ไม่สนุกเสียแล้ว

แรกๆหนึมปรับเปลี่ยนชีวิตไม่ทันเหมือนกัน ชีวิตที่นัดเพื่อนเที่ยวทุกคืน บางคืนไป 2 – 3 ที่กับเพื่อน 2 – 3 ก๊วน แต่เปลี่ยนมาเป็นเลิกงานก็กลับบ้าน กลับไปทานอาหารมังสวิรัต หนึมหวั่นใจกับการสูญเสียเพื่อนพอสมควร

จนพี่นั่มให้แง่คิดว่าเพื่อนที่ดีนั้นมีไม่กี่คนก็พอ หนึมเลยกลับมาพิจารณาความหมายของ “เพื่อนที่ดี”

เพื่อน “กิน” ค่อยๆหายไปจากชีวิตหนึมในช่วงนี้ จนหนึมได้มาปฏิบัติธรรมอย่างจริงๆจังๆ หลังจากเอาแต่อ่านและยังขลุกกับความทุกข์มานาน เพื่อน“ธรรม” จึงค่อยๆแสดงตัวให้เห็น คนเหล่านี้เป็นคนที่หนึมรู้จักอยู่แล้ว แต่เพราะหนึมไม่เคยสนใจในด้านนี้ของชีวิต คนเหล่านี้ก็ไม่เคยเผยตัวตนในด้านธรรมของเขาให้เราเห็นเหมือนกัน

พวงพัชรเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนที่ราชินี และเป็นคนแรกๆที่เล่าเรื่องการไปปฏิบัติธรรมให้หนึมเกิดความสนใจ จนในที่สุดก็ลองไปปฏิบัติดูบ้าง สิ่งที่หนึมไปประสบเป็นสิ่งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ หนึมบอกเล่าให้กับเพื่อนฝูง และคงมีส่วนปลุกความสนใจในธรรมของคนหลายๆคนรอบตัวจนเขาไปปฏิบัติบ้าง

บางคนเป็นเพื่อนธรรมเมื่อหนึมซื้อหนังสือนิยายธรรมชุด “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” มาให้เพื่อนฝูงน้องๆที่บริษัทยืมอ่านยามว่าง จากคนที่อ่านนิยายทั่วไปกลายเป็นคนสนใจธรรมขึ้นมาบ้าง บางคนกลายมาเป็นเพื่อนธรรมเมื่อหนึมจัดทริปส่วนตัว ไปไหว้ครูบาอาจารย์ที่นับถือที่วัดพระบาทน้ำพุ วัดอัมพวัน และสวนสันติธรรม บางคนก็กลายมาเป็นเพื่อนธรรมเพราะหนึมชวนสั่งพิมพ์หนังสือธรรม

เพื่อนหลายๆคนเปลี่ยนเรื่องคุยมาเป็นเรื่องธรรมและสภาวะธรรม ขวนขวายหาความรู้ในด้านธรรมมาแบ่งปันกัน เพื่อนโลกๆบางคนก็หลุดจากวงโคจรไปเลย บางคนก็รับได้กับสิ่งที่เขาไม่รู้เรื่องและพอทนฟังไปได้ในวงสนทนา เพราะยังไงเราก็ยังต้องคุยเรื่องโลกๆอยู่นั่นเอง จิต และตูน มักเป็นเสียงกระซิบเวลาที่หนึมหลุดไปคุยเรื่องโลกๆที่ก่อเกิดอกุศลกรรมได้บ่อยๆ เพื่อนบางคนเคยเป็นเพื่อนเที่ยวดื่มกินก็กลับมากลายเป็นเพื่อนธรรม

พวงพัชรชวนหนึมไปปฏิบัติธรรม ไปเป็นธรรมบริกร นอกเหนือจากชวนทำบุญมากมายทาง e-mail เป็นระยะๆและเอา cd ธรรมมาให้จนฟังไม่ทัน จิตและศุกร์จะคอยหา cd หลวงพ่อปราโมทย์แผ่นที่หนึมไม่มีมาให้ กรและน้องเล็กต่างคนต่างชวนสร้างพระ ต้นชวนไปทำบุญและไปกราบหลวงตาบัว เกดส่งหนังสือธรรมมาให้ น้องออคอยช่วยโทรสั่งหนังสือธรรมและประสานงาน ตลอดจนช่วยห่อหนังสือส่งเพื่อนธรรมให้หนึมเวลาสั่งพิมพ์หนังสือเสมอๆ ตูนตามหนึมไปบ้านอารีย์ได้หนังสือมา 1 เล่มที่ถูกใจอยากสั่งพิมพ์แจกก็ชวนหนึมสั่งพิมพ์กับเพื่อนฝูงพี่น้องอีกหลายคน ล่าสุด หนึมได้หนังสือธรรมจากพี่กล้วย เพราะ “หนึมเอามากแจกพี่ พี่ก็เลยให้หนึมบ้าง” และได้หนังสือธรรมมาอีก 2 เล่มจากเก๋ นภศรที่ไปบวชเนกขัมมะเมื่อวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา

เราเป็นอย่างไรก็ได้เพื่อนอย่างนั้นจริงๆ